คลังตัดสิทธิ์รับเงิน 5000 แล้ว 12 ล้านคน

วันที่ 15 เมษายน 2563 ทีมข่าว dailyliveexpress ได้รับรายงานว่า นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้ามาตรการจ่ายเงิน เยียวยา 5000 บาทว่า มีประชาชนที่ลงทะเบียนผ่าน เราไม่ทิ้งกัน แล้ว กว่า 27 ล้านคน โดยขณะนี้ทยอยจ่ายเงินให้ประชาชนที่ผ่านเกณฑ์แล้ว 3 ล้านคนเศษ หลังจากนี้กระทรวงการคลังจะทยอยจ่ายเงินให้ผู้ที่ผ่านเกณฑ์อย่างต่อเนื่องทุกวัน

นอกจากนี้มีประชาชนประมาณ 12 ล้านคนที่ถูกตัดสิทธิ์ เพราะไม่เข้าข่ายมาตรการ ขณะที่มีประชาชนที่อยู่ระหว่างขอข้อมูลเพิ่มเติมอีกประมาณ 6 ล้านคนเศษ โดยส่วนนี้มีการส่งข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามาแล้วประมาณ 1.9 ล้านคน ยังเหลืออีกประมาณ 4 ล้านคนเศษที่ยังไม่แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามา ก็จะเร่งประสานเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมผ่านระบบออนไลน์ต่อไป
ส่วนประชาชนที่อยู่ในต่างจังหวัด จะมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พนักงานธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เข้าไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และส่งข้อมูลผ่านระบบออนไลน์เข้ามาที่กระทรวงการคลังให้เร่งพิจารณา หากการตรวจสอบข้อมูลถูกต้อง ชัดเจน จะเร่งอนุมัติเงินเยียวยา 5000 บาทให้ประชาชนที่ผ่านเกณฑ์โดยเร็วที่สุด

6 ล้านคนที่อยู่ระหว่างการขอข้อมูลเพิ่มเติมนั้น บางส่วนมีคุณสมบัติไม่เข้าเกณฑ์ เช่น อายุไม่ถึง 15 ปีก็ถูกตัดสิทธิ์ทันที ส่วนคนที่อายุเข้าเกณฑ์ 18 ปีขึ้นไป บางส่วนมีการกรอกเลขประจำตัวประชาชนผิด กรอกคำนำหน้า เช่น นาย นาง นางสาวติดกับชื่อ ทำให้ไม่ตรงกับข้อมูลของกรมการปกครอง ทำให้ได้รับเอสเอ็มเอสแจ้งว่าข้อมูลไม่ตรง ในส่วนนี้สามารถเข้าไปใน เราไม่ทิ้งกัน เพื่อขอทบทวนสิทธิ์ได้ โดยจะเปิดให้มีการทบทวนสิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย.นี้ นายประสงค์ กล่าว
ส่วนกรณีประชาชนที่ได้รับเอสเอ็มเอสแจ้งว่าไม่ได้รับสิทธิ์ เนื่องจากเป็นเกษตรกรนั้น เพราะระบบนำเลขประจำตัวประชาชนไปเทียบกับข้อมูลของกระทรวงเกษตร ดังนั้นหากเลขประจำตัวประชาชนดังกล่าวตรงกันก็จะขึ้นว่าเป็นเกษตรกร แต่หากประชาชนสามารถชี้แจงและมีหลักฐานยืนยันว่าไม่ได้เป็นเกษตรกร และประกอบอาชีพที่ได้รับผลกระทบจาก CD 19 เมื่อตรวจสอบแล้วว่าเป็นความจริงก็สามารถได้รับเงินเยียวยาในส่วนนี้ทันที แต่จะไม่ได้รับการช่วยเหลือกรณีมาตรการเยียวยาเกษตรกรที่รัฐบาลเตรียมจะดำเนินการในเร็วๆ นี้
สำหรับงบประมาณที่จะใช้ในการดำเนินมาตรการจ่ายเงินเยียวยาผลกระทบจาก CD 19 วงเงิน 5000 บาท เป็นเวลา 3 เดือนนั้น ส่วนแรกจะมาจากการใช้งบกลางปี 2563 และการปรับปรุงงบประมาณรายจ่ายปี 2564 ในการใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่จำเป็น อีกส่วนจะมาจากการกู้เงินตามพ.ร.ก.กู้เงินฉุกเฉิน วงเงิน 1 ล้านล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าจะใช้ในส่วนเยียวยา 5000 บาทและมาตรการเยียวยาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ประมาณ 5.55 แสนล้านบาท
นายประสงค์ กล่าวอีกว่า ยืนยันกระทรวงการคลังยังไม่มีแนวคิดจ่ายเงินเยียวยา 5000 บาทตามบัญชีครัวเรือน เนื่องจากบางครัวเรือนไม่ได้รับผลกระทบจริง ตรงนี้ยอมรับว่าเป็นประเด็นและเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อน และตาม พ.ร.ก. กู้เงินฉุกเฉิน 1 ล้านล้านบาท ระบุไว้ชัดเจนว่า จะต้องจ่ายเงินเยียวยาให้ตรงตัวผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างแท้จิรง ถ้าจ่ายไม่ตรงตัว ไม่ตรงจุด ผู้ที่จ่ายเงินต้องรับผิดชอบ ดังนั้นจึงต้องมีการตรวจสอบตามหลังเสมอ
“บางครัวเรือนเป็นเจ้าสัว บางครัวเรือนเป็นข้าราชการ ตรงนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน การดำเนินการต้องทำตามกฎหมายกำหนดอย่างชัดเจน เพราะเป็นการกู้เงิน ต้องจ่ายให้ตรงตัวผู้ที่ประสบความเดือดร้อน ถ้าจ่ายไม่ตรงตัวไม่ตรงจุดผู้จ่ายต้องรับผิดชอบ ทำให้ต้องมีการตรวจสอบตามหลังเสมอ เพราะไม่ใช่เงินของคลัง เป็นเงินของประเทศชาติ เงินประชาชน เงินกู้ที่กู้มาประชาชนทุกคนต้องร่วมกันใช้หนี้ นายประสงค์ กล่าว
Post a Comment